SEO สำหรับการสร้างแบรนด์ ?

การทำให้แบรนด์สินค้าให้ติดตลาดโดยการใช้ SEO ?

SEO สำหรับการสร้างแบรนด์ ?

SEO หรือ ชื่อเต็ม คือ Search Engine Optimization หมายถึง การปรับปรุงเว็บไซต์ เริ่มตั้งแต่การออกแบบเว็บไซต์ เนื้อหาเว็บไซต์ ไปจนถึงระบบโปรแกรมของเว็บไซต์ และวิธีการโปรโมทเว็บไซต์
เพื่อให้ติดอันดับ Search Engine (เว็บที่ใช้ค้นหาเว็บไซต์อื่นๆ เช่น Google, Bing, Yahoo, Baidu เป็นต้น)

สร้างแบรนด์ให้สินค้าค้นหาเจอบนกูเกิล Google Search Engine ต้องทำอย่างไร ?

หากแบรนด์ของเราติดอันดับ 1  หน้าแรกอากู๋ - ให้ติดอันดับได้ และคงทน คงต้องใช้เทคนิคมากมาย

มาดูปัจจัยที่มีผลกับ SEO ครูเจขอแบ่งเป็น 5 ประเภทหลัก ที่ทำให้แบรนด์ของเราค้นหาเจอบนกูเกิล Google Search Engine

ธุรกิจ = Brand ของเราต้องมีเว็บไซต์ และสำคัญ ต้องเป็นเว็บไซต์ที่เราสามารถสร้างเอง เพื่อที่จะได้เขาไปออกแบบ ปรับปรุงให้เว็บไซต์ของเรา ค้นหาเจอ บนอันดับที่ดีของกูเกิล Google ได้

ปัจจัยที่สำคัญที่ทำให้แบรนด์ Brand ของเรา ค้นหาเจอบนหน้า 1 ของกูเกิล Google มีอะไรบ้าง ?

- On Page SEO ปัจจัยภายในเว็บไซต์
- Off Page SEO ปัจจัยภายนอกเว็บไซต์
- Social Media ปัจจัยจาก Social Media
- User Signals สัญญาณจาก ผู้ใช้
- Search Engine การลงโทษจาก Search Engine

1. ปัจจัยภายในเว็บไซต์ (On Page SEO)
ปัจจัยแบ่งเป็นข้อๆดังนี้

Keywords ที่เกี่ยวข้องกันกับธุรกิจ
Keywords ที่ตรงกับความต้องการ
จำนวนลิงค์ภายในเว็บไซต์
จำนวนลิงค์เข้าเว็บไซต์
จำนวน Keywords ในเนื้อหาเว็บเพจ
จำนวนคำ, ความยาวของ HTML, และจำนวนตัวอักษร
Keyword ใน Link ภายในเว็บไซต์
Keyword ใน Heading (H1-H6)
รูปภาพสินค้าที่มี Keyword ฝังอยู่

2. ปัจจัยจาก Social Media
ปัจจัยแบ่งเป็นข้อๆดังนี้ค่ะ (โดยการใช้ Keyword ในการตั้งค่าและส่งลิงก์กลับมายังเว็บไซต์หลัก)

Google Plus
Facebook Shares
Facebook Comments
Pinterest
Facebook Likes
Tweets
Blogger
Line (วางลิงก์)
YouTube

3. ปัจจัยภายนอกเว็บไซต์ (Off Page SEO)
ปัจจัยแบ่งเป็นข้อๆดังนี้
จำนวน Backlinks
จำนวน Backlink จากเว็บไซต์คุณภาพ

4. สัญญาณจาก ผู้ใช้ (User Signals)
ปัจจัยแบ่งเป็นข้อๆดังนี้
อัตราการคลิ๊กจาก หน้าผลการค้นหา Google
เวลาที่ใช้บนเว็บไซต์
สถิติผู้ใช้ เข้า-ออกเว็บไซต์

5. บทลงโทษจาก Search Engine
ปัจจัยแบ่งเป็นข้อๆดังนี้
Backlink จากเว็บไซต์ ผิดธรรมชาติ
Spam Keywords
ลงโฆษณามากเกินไป และมีเนื้อหาสำคัญน้อย ไม่มีเนื้อหาที่มีประโยชน์
มี URL และมีการ Redirect ไม่ประสงค์ดี
ซ่อน Keywords โดยการใช้สีขาว
รู้จักการทำงานของ Panda Penguin

ทำไม ? การทำ SEO ถึงจำเป็นต่อเว็บไซต์และการธุรกิจออนไลน์

ลูกค้าค้นหาข้อมูลสินค้าและบริการที่ต้องการและเจอแบรนด์ Brand ของเรา จากกูเกิล ถ้าอยากให้มีคนเข้าเว็บไซต์เรามากๆ และอยากให้เว็บของเราค้นหาเจอบนหน้าแรก Google เราจะต้องปรับแต่งเว็บไซต์ของเราให้ดี ติดอันดับ Google แล้วจะมีลูกค้าหน้าใหม่ๆ รวมทั้งลูกค้าเก่าๆแวะเวียนมาที่หน้าร้านออนไลน์ของเราไม่ขาดสายโดยมาจากการหาของ Keyword ที่เราได้ตั้งค่าไว้

ทำ SEO ด้วยตัวเองได้ไหม ?

ทำ SEO ด้วยตัวเองได้ค่ะ และควรทำเป็นอย่างยิ่ง เพียงแต่ว่าคนทำต้องเรียนรู้และทดลองเกี่ยวกับ SEO วิธีง่ายๆในการเรียนรู้เบื้องต้น กับคนที่มีความรู้และสามารถอธิบายข้องมูลเกี่ยวกับ SEO ได้อย่างชัดเจนและมีผลงาน จากนั้นแนะนำให้หาหนังสือดีๆ อ่าน เพื่อท่านสามารถมีความเข้าใจเกี่ยวกับ SEO ได้อย่างถูกต้องและถูกวิธีค่ะ

บริการรับทำ SEO ราคาถูกดีไหม ? และควรจ้างทำ SEO หรือ ทำเองดี ?

บริการรับทำ SEO ราคาถูกเกินไป และทำผิดวิธีจะทำให้เว็บไซต์โดน Ban ได้
การจ้างทำ SEO เหมาะกับธุรกิจที่มีเงินลงทุน, ไม่มีเวลา, ไม่มีความรู้ด้านการตลาดออนไลน์ โดยควรพิจารณาผลงานเป็นสำคัญจากผู้บริการที่น่าเชื่อถือ

ครูเจ ขอแนะนำให้คนทำธุรกิจออนไลน์ขนาดเล็ก ทำ SEO ด้วยตัวเอง เริ่มเรียนรู้ตั้งแต่เบื้องต้น Step By Step และ Workshop ปฎิบัติจริงด้วยตัวเอง เพราะเราหากเราเท่านั้นที่รู้เกี่ยวกับธุรกิจของเรามากที่สุด โดยการเขียนบทความลง Fanpage, Website, ฺBlog ในลักษณะการทำ Content Marketing โดยการเลือก Keyword ที่ถูกต้องกับธุรกิจที่ทำอยู่ ก็จะช่วยทำให้การทำ SEO ที่ทำด้วยตัวเอง มีอันดับที่ดีขึ้นมากถึงมากที่สุด หากแต่เพียงว่าต้องเรียนรู้การทำ SEO เพิ่มเติมมากขึ้นเรื่อยๆ

Website ที่ดี ต้องมีบทความท Content สม่ำเสมอ การสร้าง Content สามารถสร้างได้ผ่าน วีดีโอ, ภาพนิ่ง ที่สอดคล้องกับหลักการทำ SEO แล้ว เว็บไซต์ก็จะติดหน้าแสดงอันดับผลการค้นหาของ Google (SERPs) ได้ง่ายดายขึ้นเป็นปลอกกล้วย

อย่าลืมที่จะพัฒนาตัวเองในทักษะยุคดิจิตอลสำหรับธุรกิจ SME สิ่งที่ครูเจ พอจะช่วยได้คือ คอร์สอบรมการตลาดออนไลน์ ที่พัฒนามาเพื่อให้ธุรกิจของท่านค้นหาเจอบนระบบการค้นหากูเกิล Google Search โดยเฉพาะ

7. หลักสูตรแนะนำ

1. SEO Facebook
2. SEO Fan Page
3. SEO Google Keyword
4. Blogger เงินล้าน
5. Line@ สำหรับธุรกิจ SME
6. Website WordPress
7. Facebook Ads.

สอนการทำตลาดออนไลน์ โดยวิธีการใช้ SEO แบบง่ายๆ บ้านๆ เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในการจ้างบริษัทราคาแพง สอนปฎิบัติจริง Step By Step เข้มข้น 1 วัน 1 หลักสูตรอบรม ไม่เข้าใจสามารถมาเรียนซ้ำได้จนกว่าจะเป็น โดยมีค่าใช้จ่ายเพียงเล็กน้อยเท่านั้น สอนโดยครูที่มีประสบการณ์ และมีผลงานจริง !
สนใจจองได้แล้ว

สถาบันสอนการตลาดออนไลน์ ไอทีแม่บ้าน ครูเจ
โทร. 098-469-9593, 090-970-2251

www.ไอทีแม่บ้าน.com

Short Cut สูตรลัดสำหรับทำธุรกิจออนไลน์

ขายของออนไลน์ต้องมีชันเชิง เทคนิคง่ายๆ ในการขายของอย่างมีชั้นเชิงสำหรับแม่ค้าออนไลน์ มือใหม่และมือเก่า Short Keys คำสั่งลัด รวมคำสั่งคีย์ลัด ยอดฮิต สำหรับแม่ค้าออนไลน์ ที่จำเป็นต้องใช้ สำหรับช่วยในการสร้างรายได้ สร้างยอดขายออนไลน์ เรามาดูกันนะคะ ว่ามีคำสั่งไหนบ้าง
Short Cut คีย์ลัดสุดฮิต สำหรับแม่ค้าออนไลน์ ต้องใช้ !

1. Ctrl + A ใช้สำหรับการเลือกทั้งหมดหรือแทนคำว่า Select All

2. Ctrl + C ใช้สำหรับการ copy ภาพหรือตัวอักษรที่เลือก เก็บไว้

3.  Ctrl + V ใช้สำหรับการ past ภาพหรือตัวอักษรที่ได้เก็บไว้จากการ copy หรือ cut

4.  Ctrl + V ใช้สำหรับการ past ภาพหรือตัวอักษรที่ได้เก็บไว้จากการ copy หรือ cut

5. Ctrl + D เพิ่มบุ๊คมาร์ก

6. Ctrl + ขยายหน้าจอ

7. Ctrl - ลดขนาดหน้าจอ

8. Alt + Tab ใช้สำหรับการเปลี่ยนหน้าต่างของซอฟต์แวร์ ที่เปิดใช้งานอยู่ในขณะนั้น

9. Esc ใช้สำหรับการยกเลิกการทำงาน หรือออกจากการตั้งค่าต่าง ๆ หรือแทนคำว่า Cancel

10. Enter ใช้สำหรับการยอมรับ หรือแทนการกด OK เป็นส่วนมาก

11. Home หรือ Ctrl + Home ใช้สำหรับการเลื่อน Scrool Bar ไปที่ตำแหน่งแรกของหน้าต่างนั้น

12. End หรือ Ctrl + End ใช้สำหรับการเลื่อน Scroll Bar ไปที่ตำแหน่งท้ายสุดของหน้าต่างนั้น

13. F2 Rename ชื่อไฟล์ หรือการแก้ไขข้อความต่าง ๆ

14. F5 Refresh เพื่อโหลดหน้าเว็บไซต์ปัจจุบันใหม่อีกครั้ง

15. Ctrl + Esc ใช้สำหรับเรียก Start Menu ขึ้นมาใช้งาน

16. Ctrl + D เพิ่มบุ๊คมาร์ก

17. Ctrl + ขยายหน้าจอ

18. Ctrl - ลดขนาดหน้าจอ

เพื่อนๆ ลองไปหัดใช้กันนะคะ

สู้สู้

ไอทีแม่บ้าน ครูเจ

โทร. 098-469-9593

www.ไอทีแม่บ้าน.com

SEO Facebook ช่วยสร้างแบรนด์ได้ ?

SEO Facebook ช่วยเพิ่มยอดขายในการสร้างแบรนด์ได้อย่างไร ?

SEO Facebook ช่วยเพิ่มยอดขายในการสร้างแบรนด์ได้อย่างไร ?

สวัสดีจ้า วันนี้ครูเจ จะขอนำเสนอบทความสำหรับคนที่อยากขายของออนไลน์ แต่เจอปัญหาหลายอย่างจนท้อใจ หรือหนักสุดก็เลิกทำกันไปเลย เพราะยอดขายที่ขายของในเฟสบุค เงียบลง เงียบลงเรื่อยๆ ลงทุนทำเพจขายของ Facebook Fan Page เพจก็เงียบ บางคนแก้ปัญหาโดยการทุ่มทุนในการซื้อโฆษณา Facebook Ads. โปรโมท ให้หนักกว่าเดิม ต้นทุนเพิ่ม ค่าใช้จ่ายเพิ่มแบบไม่จำเป็น บางคนก็แก้ไขปัญหาโดยการหาคอร์สเรียน เพื่อเพิ่มความรู้และโอกาสในการทำธุรกิจออนไลน์มากขึ้น บางคนมีสินค้า ผลิตสินค้ามา ต้องการสร้างแบรนด์ สร้างยอดขาย โดยใช้เฟสบุคอย่างเดียว สร้างได้อย่างไร และเฟสบุคระบบเดียว สามารถสร้างได้มัย ?

วันนี้ครูเจ จะบอกถึงความจริงกับสิ่งที่แม่ค้ามือใหม่ มือเก่า เจอกับการทำธุรกิจออนไลน์ โพสขายของ โดยเฉพาะแม่ค้าออนไลน์ ที่ขายของบนระบบเฟสบุคที่เดียว หรือช่องทางเดียว ถึงปัญหา และวิธีการแก้ไข เพื่อช่วยให้ธุรกิจของเรา อยู่รอด ลูกค้ามากกว่าเดิม ธุรกิจเติบโตอย่างยั้งยืนค่ะ

การขายของบนเฟสบุค Facebook เพียงช่องทางเดียว อาจทำให้ธุรกิจโตช้า ไม่สามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ เนื่องจากเฟสบุค Facebook เป็นเพียงแค่เว็บไซต์ เว็บหนึ่งเท่านั้น แต่บางคนอาจคิดว่า
คนไทยรู้จักเฟสบุค และใช้เฟสบุคในชีวิตประจำกันทุกคน หากเราขายของบนเฟสบุคก็น่าจะขายได้

ระบบเฟสบุคมีการทำงานที่ซับซ้อน แถมเฟสบุคก็มีการปรับฟีเจอร์ การใช้งานตลอดเวลา ทำให้การเข้าถึง เวลาที่เราโพสต์ต่อครั้ง เข้าถึงลูกค้าหรือแฟนเพจของเราน้อยกว่าที่ผ่านมา

หากแม่ค้าออนไลน์ ใช้เฟสบุคเป็นช่องทางในการขายของที่เดียว บางท่านสร้างเพจมาเพื่อขายของ ที่ผ่านมา รายได้ดีถึงดีมาก แต่ที่ผ่านมา Facebook เฟสบุคก็มีการปรับอัลกอริทีม Algorithm การแสดงผลหน้า New Feed ทำให้เวลาเราโพสแต่ละครั้ง ยอดเข้าถึงลดลงทั้งๆ ที่เพจของเราก็มียอดไลท์ Like มากมาย ยอดเข้าถึงน้อยลง ยอดขายก็หายวับไปด้วย ! ยิ่งเพจไหน แม่ค้าออนไลน์คนไหน ที่ขายของโดยไม่พึ่ง Facebook Ads. โพสขายของโดยการ organic reach อย่างเดียว ยิ่งแย่ไปใหญ่ ทางรอดแทบไม่ค่อยมี คงต้องปรับตัวกันใหม่แล้ว !

เพราะอะไร ? เพราะว่าเฟสบุค จะได้ขายโฆษณาการ promote page มากขึ้น ถ้าเพจไหนรู้สึกว่า ลูกค้าหาย หรือเงียบๆ ก็ต้องซื้อโฆษณากันไป เหวี่ยงแห หาลูกค้ากันไป โชคดีก็มียอดขาย หากโชคไม่ดี ก็แต่ยอดไลท์ Like

แต่สำหรับครูเจ ครูเจ แนะนำว่า เราควรทำคู่กันไปคือ เช่น โฆษณาก็ซื้ออยู่ Facebook Ads. การบูทโพสต์ boost post ก็ยังต้องทำอยู่ เพราะหากไม่ซื้อเด่วยอดขายหาย บางคนทำใจไม่ได้ แต่ครูเจ ขอแนะนำให้เริ่มเพิ่มช่องทางการขายของมากขึ้น เช่น หากเราขายของบนเฟสบุคที่เดียว ให้เริ่มเริ่มมองหาช่องทางใหม่ ทำเลใหม่ๆ ในการขายของควบคู่ไปได้ เพื่อเพิ่มช่องทางในการขายของ โปรโมทและโฆษณา

ประสบการณ์จริงของครูเจ ครูเจ ยืนยันว่า ได้ผลเกิน 1,000,000%

มาดูกันนะคะว่าครูเจ ใช้ช่องทางไหน ในการเพิ่มช่องทางการขายของบ้าง ?

1. การสร้างช่องทางขายของบนระบบเฟสบุค โดยเทคนิคการใช้ SEO Facebook 

SEO Facebook คืออะไร ?

คือการปรับให้ เฟสบุค ของเรา มองเห็นโดยลูกค้า และโดย บ็อท ของกูเกิล โดยการใช้ Keyword 100% พร้อมการเชื่อมระบบโฆษณากับเว็บไซต์ธุรกิจโดยการวาง ลิงก์ Link เพื่อส่งลูกค้าและบ็อท ไปยังเว็บไซต์ปลายทาง

นั่นหมายถึงว่า หากการโพสของท่านแต่ละโพส ท่านสามารถวาง Keyword ไว้ให้ตรงกับคำค้นหาจากระบบกูเกิล Google Search Engine โพสของท่านก็มีโอกาสเข้าถึงคนจำนวนมากกว่าปรกติ เพราะว่า Google จะสามารถค้นหาโพต์ของท่านเจอด้วย (โดยไม่ต้องเสียค่าโฆษณาให้กูเกิลสักบาท) !

หากเราเรียนรู้วิธีการใช้เฟสบุค Facebook แบบถูกต้องและถูกวิธี ใช้ SEO Facebook ในการสร้างแบรนด์ เราก็จะสร้างแบรนด์เองได้ โดยไม่ต้องค่าใช้จ่ายในราคาแพง

ครูเจ มีตัวอย่าง เพจที่ค้นหาเจอบนระบบกูเกิล Google Search Engine ให้ดูนะคะ
ขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ ที่ขายของออนไลน์ทุกท่านให้มีลูกค้าทุกวันคะ

หากท่านสนใจเรียนรู้วิธีการสร้างแบรนด์ สร้างยอดขาย เพิ่มตัวแทนจำหน่าย รวมถึงวิธีสร้างการโมทธุรกิจของท่านผ่านระบบโซเชียลแบบไม่ต้องเสียค่าซื้อโฆษณา ไม่ต้องเสียค่า Ads. ราคาแพง แนะนำให้มาเรียนกับครูเจ นะคะ

ไอทีแม่บ้าน ครูเจ

สถาบันสอนการตลาดออนไลน์ ไอทีแม่บ้าน
จองคอร์สอบรม การตลาดออนไลน์ หลักสูตรสร้างแบรนด์

โทร. 098-469-9593, 0955515034 ไอดี itmaeban
www.ไอทีแม่บ้าน.com

การตลาดออนไลน์ เหมาะกับใคร ?

การตลาดออนไลน์เหมาะกับใคร ?

1. เจ้าของธุรกิจ เจ้าของกิจการ SME เจ้าของสินค้า เจ้าของผลิตภัณฑ์ เจ้าของแบรนด์ Brand ที่ต้องการสร้างแบรนด์ด้วยตัวเอง เพื่อลดต้นทุน ค่าใช้จ่ายในการซื้อโฆษณา Ads. หรือลดต้นทุนในการจ้างบริษัทราคาแพง

2. ผู้ที่ต้องการพัฒนาตนเองในการทำตลาดออนไลน์และการค้าขายบนโลกออนไลน์

3. ผู้ที่ต้องการเพิ่มยอดขายจากการโฆษณาและโปรโมทธุรกิจออนไลน์ของตัวเอง

4. ผู้ที่ต้องการหาเงินทางอินเตอร์เน็ต internet

5. ผู้ที่มีเว็บไซต์ และต้องการให้เว็บไซต์ของตัวเองเป็นที่รู้จักค้นหาเจอบนหน้าแรกๆ กูเกิล Google Search Engine ด้วยระบบ Organic

6. ผู้ที่ต้องการสร้าง Traffic ต้องการให้ผู้ชมเข้าเว็บมากขึ้นทั้งแบบซื้อโฆษณาและไม่ซื้อโฆษณา

7. สำหรับท่านที่สนใจเรียนรู้วิธีการทำ SEO ด้วยตัวเอง เพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างถาวรและยั้งยืน

ทำไมคอร์สเรียนการตลาดออนไลน์ ถึงสำคัญสำหรับเจ้าของกิจการ เพราะว่าการทำตลาดออนไลน์ สำหรับเจ้าของแบรนด์ เจ้าของธุรกิจ ต้องมีความรู้เรื่องการใช้อินเตอร์เน็ตเป็นอย่างดี ถึงขั้นดีมากๆ แต่หากอยากให้แบรนด์โตเร็ว ดังใจ แข่งกับคู่แข่งได้ เจ้าของธุรกิจควรมีความเรียนรู้เกี่ยวกับการสร้างเว็บไซต์ด้วยตัวเอง และวิธีการโฆษณา โปรโมทธุรกิจบนโลกออนไลน์ได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ต้องจ้างในราคาแพง ที่สำคัญออกแบบได้ดังใจต้องการ

หากใครต้องการหาเงินล้านจากอินเตอร์เน็ต โลกออนไลน์ ถึงเวลาแล้ว ที่เราควรต้องเริ่มต้นหาความรู้ เพื่อสร้างโอกาส สร้างอาชีพ และรายได้อย่างถูกต้องและถูกวิธีกันแล้วนะคะ !

เริ่่มก่อนรวยก่อนนะคะ

สู้สู้

ไอทีแม่บ้าน ครูเจ

สถาบันสอนการตลาดออนไลน์ ไอทีแม่บ้าน

โทร. 098-469-9593, 0955515034 ไอดี itmaeban

www.ไอทีแม่บ้าน.com

ครูเจ ไอทีแม่บ้าน

โทร. 098-469-9593

สอนการตลาดออนไลน์ By ไอทีแม่บ้าน

รูปภาพต้องสวย | ขายของออนไลน์ เทคนิคขายดี

เริ่มต้นสร้างแบรนด์ เริ่มอย่างไร ?
รูปภาพต้องสวย | ขายของออนไลน์ เทคนิคขายดี

การสร้างแบรนด์ ไม่ว่าจะแบรนด์ใหญ่หรือแบรนด์เล็ก จำเป็นที่สุด คือ การทำรูปภาพประกอบการโฆษณา ! บทความทุกบทความบนอินเตอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นบนเฟสบุค แฟนเพจ ไลน์ อินสตาแกรม จำเป็นต้องมีข้อมูลธุรกิจที่ครบถ้วน ข้อมูลสินค้า ข้อมูลติดต่อกลับ และต้องมีภาพประกอบที่สวยงาม เพื่อดึงดูดลูกค้าให้กดเข้ามาดูข้อมูลสินค้า

รายละเอียดสินค้า สามารถเขียนขึ้นมาได้ แต่เจ้าของธุรกิจหลายท่าน มีปัญหาว่า รูปภาพประกอบไม่สวย เพราะหากรูปภาพไม่สวย ลูกค้าอาจไม่สนใจสินค้าของเราเลยก็ได้ !

หากท่านต้องการรูปสวยๆ แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ถ่ายเองก็ไม่สวย ให้เพื่อนถ่ายให้ก็ไม่ถูกใจ ครูเจ ขอแนะนำให้ใช้บริการถ่ายรูปจากช่างถ่ายรูปมืออาชีพโดยตรง จาก สตูดิโอรับถ่ายรูป

หากท่านต้องการถ่ายรูปสินค้าของท่าน คู่กับตัวท่านเอง แนะนำให้ใช้บริการช่างแต่หน้าที่สตูดิโอ
สตูดิโอ ส่วนมากจะมีช่างแต่งหน้าประจำเพื่อให้บริการแต่งหน้าและทำผมสำหรับลูกค้า หากท่านเป็นพรีเซนเตอร์ให้สินค้าหรือบริการของท่านเอง ขอแนะนำให้ท่านใช้บริการแต่งหน้า ทำผมจากช่างภาพที่
สตูดิโอโดยตรง ห้ามใช้ช่างแต่งหน้าจากร้านเสริมสวย หรือฟรีแลนซ์ เพราะช่างแต่งหน้าจากสตูดิโอ
จะรู้ว่า ควรแต่งอย่างไรให้เหมาะกับแสงสีที่ใช้ในระหว่างถ่ายภาพ

สำหรับเสื้อผ้า แนะนำให้ท่านนำเสื้อผ้าไปหลายๆ ชุด เพื่อเปลี่ยนในระหว่างการถ่ายภาพ เพื่อให้ได้รูปหลากหลายสไตล์และอารมย์ สิ่งสำคัญ ภาพประกอบหลังควรเน้นฉากหลังเป็นสีขาว หรือสีเรียบๆ ไม่เน้นเป็นภาพลายตาหรือฉากหลังเป็นวิวต่างๆ เนื่องจากช่างแต่งภาพจะนำภาพของท่านมาตัดต่อลงโปรแกรม Photoshop เพื่อแต่งภาพเพิ่ม เพื่อทำภาพต่างๆ ในการสร้างโฆษณา เช่น ภาพปกเฟสบุค ภาพปกเฟสบุค แฟนเพจ ภาพบนเว็บไซต์ หรือการทำแบนเนอร์ (เพื่อโปรโมทสินค้าและธุรกิจ) การตัดภาพฉากหลังที่มีลวดลายเยอะๆ อาจไม่สะดวกในการทำงาน และที่สำคัญ สีของฉากหลังต้องตัดกับเสื้อผ้าที่ท่านใส่อยู่ เช่น หากชุดของท่านเป็นสีขาว ก็ต้องหาฉากหลังสีเทา หรือสีดำ หากชุดของท่านเป็นสีดำ ก็ให้หาฉากหลังเป็นสีขาว

หากท่านเป็นเจ้าของแบรนด์ เน้นขายสินค้า ทำแบรนด์เครื่องสำอาง ขอแนะนำให้ท่านหาซื้อสตูดิโอ ถ่ายภาพ Light Room หรือ Light Box แบบพกพา สามารถหาซื้อได้จากเว็บ ลาซาด้า ราคาไม่กี่ร้อยบาท เพื่อหัดถ่ายรูปสินค้าด้วยตัวเอง โดยใช้ Background สีขาว หรือสีดำ เพื่อให้รูปของท่านดูโดดเด่น และเป็นมืออาชีพ อย่าลืมใช้แสงไฟให้เพียงพอ เพื่อสร้างมิติของแสง

ตัวอย่าง ครูเจ ไม่มี พรีเซนต์เตอร์ ครูเจ เลยใช้ตัวเองเป็นพรีเซนเตอร์ ครูเจ ไปถ่ายรูปกับช่างภาพที่สตูดิโอ และก็เอาไฟล์รูปภาพมา ออกแบบ ตบแต่งเพิ่มเติม ใส่ตัวหนังสือ ใส่คำโฆษณา ถึงจะไม่สวย แต่ก็ช่วยลดค่าใช้จ่ายได้หลายร้อย หลายพันบาทเลยนะคะ

หากท่านมีรูปสวยๆ แล้ว ไม่รู้วิธีการแต่งรูป ไม่จ้างราคาแพง แวะมาเรียนกับเรานะคะ คอร์ส แต่งภาพด้วยโฟโต้ช็อป Photoshop สำหรับธุรกิจ SMEs โดยเฉพาะ ทางสถาบันเปิดสอนตั้งแต่เทคนิคการถ่ายภาพ การแต่งภาพ การทำภาพเพื่อทำสื่อโฆษณาในรูปแบบต่างๆ ตามความต้องการ

สู้ สู้ ค่ะ

ไอทีแม่บ้าน ครูเจ | ครูสอนสร้างแบรนด์สำหรับธุรกิจ SMEs

www.ไอทีแม่บ้าน.com

โทร. 098-469-9593, 0955515034 ไอดี itmaeban

LINE@ สำหรับร้านค้า

LINE@ คืออะไร? วิธีใช้ LINE@ สำหรับร้านค้าออนไลน์ 

คำถาม :  Line ธรรมดา กับ Line@ ต่างกันอย่างไร ? ทำไมธุรกิจทั่วไป พ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ ต้องมีไลน์แอด ?

คำตอบ : Line ธรรมดาเหมาะสำหรับใช้ส่วนตัว Line@ เหมาะสำหรับใช้ในการทำธุรกิจค่ะ ตัวอย่างง่ายๆ

รับสอนไลน์@ สำหรับร้านค้าออนไลน์

• สมัครใช้ line@ สำหรับร้านค้าออนไลน์
• วิธีเพิ่มแอดมิน admin line@
• วิธีใช้ admin line official 
• วิธีใช้ line@ อย่างละเอียด
• วิธี line@ เปลี่ยน admin
• line at บน pc

ไลน์@ สำหรับร้านค้าออนไลน์ สำคัญอย่างไร ?

1. ไลน์ธรรมดา ชื่อจะเป็นตามที่เราตั้งไอดี ครั้งแรก เป็นภาษาอังกฤษ บางท่านใช้เป็นเบอร์มือถือ ซึ่งก็ง่ายดี เนื่องจากเวลาแจ้งเพื่อนลูกค้า ก็สามารถบอกว่า ให้แอดเพื่อนมาหาเราได้ โดยไอดีของเราใช้เป็นเบอร์มือถือ ซึ่งการใช้ไลน์ธรรมดาสำหรับเจ้าของแบรนด์ เจ้าของร้านค้าออนไลน์อาจะไม่เหมาะ

2. Line Official Account หรือ ไลน์แอท Line@ ดีกว่าการใช้ไลน์ธรรมดา เพราะเราสามรถใช้เป็นชื่อร้านค้า หรือชื่อแบรนด์ของเราได้เลย เช่น สถาบันไอทีแม่บ้าน มีไลน์แอท ชื่อ @itmaeban  (ดูดีกว่าการใช้เบอร์หรือการใช้ไลน์ไอดีแบบธรรมดา)

3. จำนวนผู้ติดตาม ไลน์ธรรมดา : ไลน์ธรรมดา สามารถ รับเพื่อนได้ 5,000 คน หากเพื่อนเต็ม เพื่อนหรือลูกค้าก็ไม่สามารถแอดมาเป็นเพื่อนเราได้ น่าเสียดายโอกาสมากๆ วิธีแก้ไขคือ เราต้องลบเพื่อนเก่าออก หรือใช้เพิ่มบัญชีไลน์ หรือมือถือเครื่องใหม่

4. จำนวนผู้ติดตาม ไลน์แอท Line@ รับเพื่อน ผู้ติดตาม ลูกค้าได้ไม่จำกัด หากธุรกิจของเราใหญ่ขึ้น มีลูกค้าติดตามเรามากขึ้น โฆษณาของเราก็สามารถเข้าถึงจำนวนลูกค้ามากขึ้น

5. ไลน์ธรรมดา : โพสของเราต่อครั้งไม่สามารถเข้าถึงทุกคนได้

6. Broadcast ไลน์แอท Line@ โพสครั้งเดียว เข้าถึงคนทั้งหมดได้ หากเรามีคนติดตามเรา 20,000 คน คน 20,000 คนก็สามารถเห็นข้อความของเรา เราสามารถโพสได้ 1,000 ข้อความต่อเดือน แต่หากใครจะโพสมากกว่านั้น เช่น 50,000 ข้อความ ต่อเดือน จะมีค่าใช้จ่ายเป็นรายเดือนซึ่งก็จะมีราคาเหมาให้เราค่ะ (50,000 ข้อความราคา 26.9 Dollar)

7. ฺAdmin การเพิ่มแอดมิน ไลน์ธรรมดา เราต้องดูแลคนเดียว ซึ่งบางครั้งเราอาจจะไม่สะดวกในการตอบลูกค้า หากเราเป็นเจ้านาย ก็อาจจะอยากให้ผู้ช่วย หรือเลขา ช่วยตอบข้อความแทนเรา มีคนช่วยตอบเรา ซึ่งเราสามารถเพิ่มแอดมินได้สูงสุด 100 คน

8. ระบบข้อความตอบรับอัตโนมัติ

เราสามารถตั้งค่าให้ไลน์ตอบคำถามแทนเราได้ เช่น กด 1 กด 2 กด 3 กด 4

9. บัญชีที่มีบัญชีไลน์แอท Line@ เป็นทางการจะมีโล่ สีน้ำเงิน ซึ่งหากใครได้มาแล้ว ธุรกิจของเราก็จะสามารถค้นหาได้จากระบบไลน์

10. Rich Message

เราสามารถส่งภาพขนาดใหญ่แถมฝังลิงก์ได้สูงสุดถึง 6 ลิงก์ แล้วยิงไปหา Followers หรือลูกค้าทุกคนที่ติดตาเราได้ได้ในคลิกเดียว เป็นฟีเจอร์ยอดฮิตที่ช่วยเพิ่มจำนวนคนเข้าชมเว็บไซต์

11. ธุรกิจของเรา ร้านค้าของเราก็ดูดี มีมาตรฐาน น่าเชื่อถือกว่าการใช้ไลน์ธรรมดาเพราะมี Line@

เพื่อนๆ ลองใช้ดูนะคะ แต่หากใช้ไม่เป็น ก็ลองหาคอร์สอบรมไลน์ ดู ปัจจุบันมีเปิดสอนมากมาย หรือจะแวะมาเรียนกับทางสถาบันสอนการตลาดออนไลน์ ไอทีแม่บ้าน ก็ได้ค่ะ ยินดีค่ะ

สถาบันไอทีแม่บ้าน :
ไลน์@ สำหรับธุรกิจ SMEs ร้านค้าออนไลน์
ราคาค่าเรียน 3,000 บาท เริ่ม 10.30 น.-18.00 น.

สู้สู้

ไอทีแม่บ้าน ครูเจ

โทร. 098-469-9593, 090-970-2251,0955515034 ไอดี itmaeban
สุขุมวิท 48/3 คลองเตย กทม.
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม : @itmaeban
http://line.me/ti/p/BqCyRkZkMz